BLACKPINK กล่าวถึงการเดินทางของพวกเขาในการถ่ายทำสารคดีเรื่อง “BLACKPINK: Light Up the Sky” Hilight ข่าวบันเทิง, ข่าวบันเทิงเกาหลี seoul2me.com

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม สมาชิกวง BLACKPINK ได้จัดงานแถลงข่าวออนไลน์สำหรับสารคดี Netflix ของพวกเธอ “BLACKPINK: Light Up the Sky”

สารคดีกำกับโดย Caroline Suh จากซีรีส์สารคดีการทำอาหารเรื่อง Salt Fat Acid Heat เล่าเรื่องราวการเดินทางของ BLACKPINK และชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2016 โดยจะนำเสนอภาพที่ไม่เคยมีมาก่อนของวงในฐานะ ตลอดจนเรื่องราวเบื้องหลังชีวิตในหอพักของกลุ่มและเหตุการณ์หลังเวที ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเจาะลึกมากขึ้นผ่านการสัมภาษณ์สมาชิกแต่ละคน

แคโรไลน์ซูห์มาร่วมงานแถลงข่าวและในระหว่างงานเธอกล่าวว่า “ที่จริงฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเคป๊อปเลย แต่ฉันได้รู้เรื่องนี้ผ่านหลานชายของฉันซึ่งเป็นแฟนคลับ ฉันเองก็ไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับ BLACKPINK เช่นกัน แต่ฉันได้รับหน้าที่ดูแลสารคดีเรื่องนี้ ในฐานะคนอเมริกันเชื้อสายเกาหลีที่สนใจเกาหลีมากฉันจึงค้นหาข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ BLACKPINK และหลังจากนั้นฉันก็รู้ว่าฉันต้องทำสิ่งนี้ พวกเธอเจ๋งกว่าฉันมากและฉันสนุกกับการทำงานกับพวกเธอมาก มีคนถามฉันว่าส่วนที่ยากที่สุดของกระบวนการนี้คืออะไร แต่จริงๆแล้วฉันพบว่ามันน่าสนใจและสนุกมาก”

เจนนี่ยังแบ่งปันความคิดของเธอเกี่ยวกับสารคดีว่า “เราสงสัยอยู่เสมอว่าอะไรคือวิธีที่ดีที่สุดในการแบ่งปันการเดินทางของเรา แต่ด้วยโอกาสที่ดีเราได้พบกับแคโรไลน์ซูห์ หลังจากคุยกับเธอเราก็เริ่มมั่นใจ สารคดีกำลังจะออกฉายในรูปแบบที่น่าตื่นเต้น ดังนั้นฉันหวังว่าพรุ่งนี้จะมาเร็ว ๆ”

Netflix มีคอลเลกชันสารคดีที่เกี่ยวข้องกับศิลปินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และ BLACKPINK เป็นนักแสดงหญิงคนที่ 4 ต่อจาก Taylor Swift, Beyonce และ Lady Gaga จีซูแสดงความคิดเห็นว่า “เป็นเกียรติที่ได้อยู่เคียงข้างศิลปินระดับโลกเหล่านั้น พวกเราทั้งสี่คนทำงานอย่างหนักอย่างต่อเนื่องและเราจะเปิดเผยความพยายามทั้งหมดให้คุณทราบ”

สารคดีดังกล่าวนำเสนอการเดินทางของ BLACKPINK ตั้งแต่สมัยเด็กฝึกจนถึงการเป็นดาราระดับโลกในวันนี้ เจนนี่อธิบายว่า “มันเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเราที่ได้เห็นอดีตที่เราลืมไปแล้ว เราได้แสดงเส้นทางสู่ความเป็นดาราที่มีเสน่ห์ แต่คราวนี้เราต้องการถ่ายภาพชีวิตประจำวันของเราและฉันคิดว่า BLINK (ชื่อแฟนคลับ) รอคอยช่วงเวลานี้”

โรเซ่กล่าวว่า “เราอยากเล่าเรื่องราวของเราอย่างตรงไปตรงมา ดังนั้นเราจึงพูดกันในภาษาที่เราถนัดที่สุด เจนนี่และฉันเติบโตในต่างประเทศเราจึงพูดภาษาอังกฤษ ส่วนลิซ่าก็พูดภาษาไทย เราพูดได้หลายภาษาและฉันคิดว่าความหลากหลายเป็นตัวแทนของเรา”

BLACKPINK ยังกล่าวผ่านสารคดีเรื่องนี้พวกเขาสามารถย้อนนึกถึงวันที่เป็นเด็กฝึกหัดได้ เมื่อถูกถามว่าพวกเขาอยากจะพูดอะไรกับตัวเองหากย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้นเจนนี่กล่าวว่า “ฉันอยากบอกตัวเองว่าจะสนุกกับช่วงเวลานั้นตอนที่ฉันเป็นเด็กฝึกหัด ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพราะฉันหมดหวังที่จะทำได้ดีในระหว่างการประเมินประจำเดือน เพราะสมัยนั้นตอนนี้พวกเราทำได้ดีและนั่นคือสิ่งที่ BLACKPINK ดำรงอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นฉันจึงอยากบอกตัวเองว่าถ้าฉันตั้งใจทำงานฉันก็จะกลายเป็น BLACKPINK”

เจนนี่กล่าวต่อว่า “ตั้งแต่เรายังเป็นวัยรุ่นเราเปิดใจรับความรู้สึกต่อกัน ดังนั้นเราจึงเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันรู้สึกว่าเราสามารถสื่อสารเรื่องงานได้อย่างราบรื่น ในขณะที่ทำงานในโครงการนี้เราสามารถใกล้ชิดมากขึ้นเมื่อนึกถึงด้านที่ขี้เล่นและเป็นเด็กที่เราลืม สิ่งนี้ทำให้เราคิดถึงอนาคตมากขึ้นด้วย”

แคโรไลน์ซูห์กล่าวชื่นชม BLACKPINK ว่า “ฉันได้เรียนรู้ว่าสมาชิกแต่ละคนมีความมุ่งมั่นและแข็งแกร่งและพวกเขากำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อบรรลุความฝัน”

ลิซ่าให้คำแนะนำแก่ผู้ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็น BLACKPINK เธอเล่าว่า “ฉันคิดว่าสิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าคุณชอบอะไรและรักตัวเอง”

เกี่ยวกับเป้าหมายในอนาคตของพวกเขา BLACKPINK อธิบายว่า “เราไม่กลัวความท้าทายใหม่ ๆ เรากำลังคิดว่าจะทำอะไรต่อไปได้อีกบ้างและเนื่องจากเราได้แสดงให้เห็นว่าดนตรีเป็นเนื้อหาที่ขยายได้อย่างไรเราจึงต้องการที่จะเจาะลึกมากขึ้น สิบปีนับจากนี้ฉันคิดว่าเราจะมีพบกันโดยไม่เสียสไตล์ของตัวเอง”